Rambling about my fav NPCs

[สเตตัสเกม] [FFXIV & FFXI]
 
วันนี้ขอเวิ่นเรื่องเกมหน่อย ว่าด้วยเรื่อง favourite NPC หรือตัวละครโปรด ที่เป็น NPC โผล่มาในเนื้อเรื่องหรือมิชชั่น / เควสต์ต่าง ๆ พอดูจาก FF11 แล้วก็ FF14 เท่าที่ผ่านมา เราสังเกตว่าตัวเองมีแพทเทิร์นตัวละครที่ชอบอยู่ประมาณหนึ่ง
 
คือชอบตัวละครน้องสาว ที่เป็นคนดีเลิศประเสริฐศรี น่ารักน่าทะนุถนอม น่าปกป้อง สำหรับเราตัวละครนั้นใน FF11 ก็คือน้องอัฟ (Aphmau) ซึ่งตอนนั้นเราหลงหัวปักหัวปำ คือแบบยอมตายได้เพื่อนาง จะสู้เพื่อนาง ทำทุกอย่างเพื่อนาง ทำทุกวิถีทางในการปกป้องนาง หนึ่งเพราะชอบบุคลิก สองเพราะชอบนิสัย แล้วคือนางเปิดเผย จริงใจ ใสซื่อ และไร้เดียงสา แม้จะสร้างความเดือดร้อนให้เรา หรือออกไปเผชิญอันตรายจนทำให้คนตายไปบ้าง (เควสต์นั้นสงสารมาก ร้องไห้ค่ะ) แต่เราก็เกลียดนางไม่ลง
 
Aphmau11
อีกอย่างเพราะในระหว่างเนื้อเรื่อง น้องอัฟมีการกระทำและคำพูดที่ซาบซึ้งตรึงใจ คือนางเชื่อมั่นและเชื่อใจเราสุดลุ่มทิ่มประตู มิไยพี่ชายจะยั่วยุใส่ไคล้เราแค่ไหน นางก็ยังยืนหยัดพูดปกป้องเราและร้องตะโกนว่าเราคือเพื่อนนาง (เควสต์นั้นซึ้งมาก น้ำตาทะลัก จากตอนแรกรักนางแค่ 40/100 ซีนนั้นกระชากใจมาก เอาไปเลย 120/100) ทำให้เรารู้สึกว่านี่แหละจักรพรรดินีที่ควรค่าแก่การรับใช้ อยากติดตามนาง เป็นทหารรับจ้างให้นางตลอดไป
 
พอมา FF14 เราเกิดที่ Ul’dah แน่นอนว่าย่อมเจอสุลตาน่า Nanamo พอเจอก็บังเกิดความผูกพันลึก ๆ อยู่ แต่ตอนแรกยังไม่ได้รักนางขนาดนั้น ก็แค่คิดว่าน่ารักดี ไรงี้ แต่พอเนื้อเรื่องดำเนินไป ได้ฟังคำพูดของนาง ว่าด้วยการปกครองอุลดาห์ให้ร่มเย็นและพลเมืองมีความสุข ก็เริ่มรักนางขึ้นมา แต่ก็ยังห่างเหินอยู่ หนึ่งเพราะนานาโมไม่ค่อยได้มาคลุกคลีกับเรา เควสต์ที่ได้เจอก็มีน้อย และมาแค่แป๊บ ๆ กว่าที่เราจะรักนางถึงขนาดอยากฆ่าใครก็ตามที่มาแผ้วพานนางก็คือช่วงที่นางร้องไห้เพราะสงสารประชาชน
ffxiv_11202016_170928_new
 
อันนี้สำหรับเรามันยังไม่สุด เราแค่อยากปกป้อง อยากช่วยเหลือ Nanamo และอยากทำให้ความฝันของนางสำเร็จ คือพลเมืองมีความสุข และอยากเป็นกำลังให้นาง เรารักนิสัยนานาโม รักจิตใจที่บริสุทธิ์และไม่เห็นแก่ตัวของนาง รักความกล้าที่นางคิดจะเปลี่ยนอุลดาห์และยืนหยัดเพื่อประชาชน แต่เรายังไม่ได้ผูกพันกับนางทางใจเหมือน Aphmau เราร้องไห้ให้นานาโมเพราะเราสงสารนาง เห็นใจนาง ใครทำร้ายนางเราก็แค้นจนอยากฆ่ามันให้ตายคามือ เราอยากต่อสู้เพื่อนาง และติดตามนางในฐานะนักรบคุณธรรม แต่เรายังไม่รู้สึกว่าเรายอมตายเพื่อนางได้ (อย่างมากแค่สู้จนเลือดท่วมเพื่อปกป้องนาง ไรงี้)
 
ส่วนตัวละครอีกแพทเทิร์นนึงคือประเภทพี่ชาย ที่กางปีกปกป้องเราตลอดเวลา เป็นที่พึ่ง ให้ที่พักพิง ให้ที่ซ่อนในยามที่เราระหกระเหินหนีใครมา ตัวละครทั้นจะมีอิมเมจเป็นพี่ชายที่แข็งแกร่งและพึ่งพาได้ ช่วยเหลือเราสุดความสามารถโดยไม่ตั้งคำถามหรือมีเงื่อนไขใด ๆ
 
สำหรับเราตัวละครนั้นใน FF11 คือ Aldo คือหลงรักมาก พี่ชายคะพี่ชายขา (แล้วก็ไปยืนลวนลามพี่ชาย 555+) ซีนที่ฮีปกป้องเราไม่ให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาจับหรือมาลากคอเราไปนั้นคือปลื้มมาก โอ๊ยเป็น adventurer มาหลายปี ต้องปกป้องตัวเองและปกป้องคนอื่นตลอด เกิดมาก็เพิ่งจะเคยมี NPC มากางปีกปกป้อง!! ทำให้รู้สึกซึ้งใจและนับถือมาก ยิ่งตอนหลังมีเควสต์ที่เผยอดีตโผล่ขึ้นมานี่แบบยิ่งอึ้ง แล้วก็ชอบ Aldo มากขึ้นไปอีก
ACPreward05
เสียที่ Aldo ไม่ค่อยมีบทเท่าไหร่ ทำให้ไม่ค่อยได้เจอกันแล้วก็ไม่ค่อยผูกพันมากขนาดนั้น
 
ส่วนพี่ชายใน FF14 ของเรา จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากท่านลอร์ด Haurchefant ผู้ที่ร้องว่า Welcome!!!! และอ้าแขนรับเราเข้าแคมป์โดยไม่รังเกียจและไม่แบ่งแยก เควสต์แรกที่เจอก็ซึ้งแล้วนะ ว่าทำไมเป็นคนดีแบบนี้(วะ) ยิ่งทำเควสต์ไปก็ยิ่งชอบและผู้พัน ได้เห็นว่าฮีเป็นคนที่มีความความเถรตรง รักความยุติธรรม กล้าหาญเด็ดเดี่ยว เสียสละ และมีเกียรติ เรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่เป็นตัวแทนแห่ง honor & valor ได้เลย มีสันดานอัศวินโดยแท้….(และแก้ไม่หาย) เราก็แบบ เลิฟเลย รักมาก หลงหัวปักหัวปำ วิ่งผ่านแคมป์ Dragon Head ทีไรก็ต้องแวะไปคุยกับฮี (และแอบจับนู่นนิดนี่หน่อย ฮี่ๆๆ)
 
ยิ่งผ่านเควสต์ก็ยิ่งรัก และคิดดูว่าตอนที่โลกทั้งโลกเป็นศัตรูกับเรา ฮีก็รับเราเข้าไปหลบซ่อน ทำทุกอย่างเพื่อช่วยเราทั้งทางกายและทางใจ ฮีเชื่อและให้ที่พักพิงกับเราโดยไม่มีเงื่อนไข และตะเกียกตะกายทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้เข้าอิชการ์ดอย่างถูกต้องและมีเกียรติ คืออวยเราแบบสุดลิ่มทิ่มประตูมาก มันทำให้ซาบซึ้งและตราตรึงในใจ
 
ffxiv_09022016_030607_new
ถ้าเทียบความรู้สึกรัก เราคิดว่าเรารัก Haurchefant ยิ่งกว่า Aphmau อีก คือมันผูกพันเพราะฮีใกล้ชิดกับเรามาก และแม้เราจะไม่ได้รู้สึกว่าจะปกป้องและยอมตายเพื่อฮี (เพราะฮีแข็งแกร่ง และเป็นฝ่ายปกป้อง) แต่เราสู้สึกว่านี่แหละคือสหายที่จะร่วมรบไปกับเรา เราอยากเคียงบ่าเคียงไหล่ไปด้วยกับฮี และช่วยเหลือกันตลอดไป……
(ข้างล่างมี spoil)
แอร่ะะะะะะะะะ เกลียดโยชิดะ TAT
 
 
 
 ตอนที่เสียท่านลอร์ดไป เราร้องไห้หนักมาก คือเฟลมาก เศร้ามาก เสียใจอย่างสุดซึ้ง และเวลากลับไปดูคัทซีนนั้นทีไรน้ำตาก็จะไหล ไม่ใช่เพราะสงสารใคร ไม่ใช่เพราะสงสารท่านลอร์ด แต่เพราะตัวเองเสียใจ (กูก็สงสารตัวกูเองนี่แหละข่าาาาาาาาา) คือแบบมันเจ็บเหมือนหัวใจโดนทะลวง…. ขนาดตอนที่ปู่ Louisoix สละชีพสมัยสิ้นชาติ 1.0 หรือตอนที่ Scion แตกสานซ่านเซ็น ไม่รู้ความเป็นความตายของเพื่อน (แต่จากสถานการณ์ทำให้คิดว่าน่าจะตายมากกว่าเป็น) หรือตอนที่นานาโมล้มลงไป หรือแม้แต่ตอนที่มูนบริดาสละชีพต่อหน้าต่อตา ยังไม่ทำร้ายเราได้ขนาดนี้ เราร้องไห้ เราโกรธ SE เรารู้สึกโดน developer หักหลังและแทงข้างหลังซ้ำ ๆ แต่ก็ไม่เสียใจหนักขนาดนี้ ตอนท่านลอร์ดนี่คือเหมือนโลกถล่มแล้ว ความหวังดับไปแล้ว คือเกลียดเนื้อเรื่องและเกลียดอิโยชิดะมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ อยากไป SE HQ แล้วคว่ำโต๊ะแม่มทุกโต๊ะ แล้วเอาเอกสารพวกมันมาฉีกให้กระจุย ไรงี้…. 
คือตอนนี้อาลัยอาวรณ์มาก ประมาณว่าอยากได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของท่านลอร์ดเอามาเก็บไว้ในห้องนอน (ในห้องนอนฝั่งทอนเบอรี่ มีรูปท่านลอร์ด 6 รูป 5555555555555+ อีบ้า) ถ้าดูชัด ๆ ดูดี ๆ แล้วท่านลอร์ดก็ไม่ได้หล่อเลย หน้าตาธรรมดามาก ๆ ๆ ๆ แต่เรารักฮีสุดหัวใจ  และคิดว่าใน FFXIV คงไม่มีตัวละครไหนที่เราจะรักได้ขนาดนี้อีกแล้ว

Happy New Year to my Shy Anon

 

 

Just a doodle.

ShyAnonNewYear_s

Since I am terribaddddd at holding my liquor, and I have no idea how you are with alcoholic drink, I imagine we could toast with mugs of hot chocolate drink. :D

Also, Happy New Year to everyone :D I hope you have a great year, healthy and happy all the way!

——————————————————–

-EDIT-

Shy Anon saw this doodle and was so happy and sent me this pic along with wonderful new year wishes. I AM SO HAPPY OMG!!!!!!!!!!!!!!!! SQUEEEEEEEEEEEEEE!

Shy_Anon_KZSnCIp

Gentle and happy colors. So much joy in this pic! I love the expression, the pose, and the color combination in this pic.

Thank you Shy Anon. You’re a very sweet and kind person. I will shamelessly put my paws on this fantastic art and hold on to it forever. I won’t say “you didn’t have to do this” because I am extremely happy that you sent it. It’s adorable. <333333333

Editing My Screenshots with PhotoScape

Today I’m going to write about the program I use to process/edit my screenshots from FFXIV. It’s called PhotoScape. http://www.photoscape.org/ps/main/index.php

It also has viewer, but I prefer Fast Stone Image Viewer instead (I used to have ACDSee but this new PC doesn’t have it and I didn’t want to use cracks or pirate software, so I changed to these because they are Free Ware).

Anyway, here’s an example of my screenshots:

Comparing the 3 pics together.ffxiv_10232015_135949_new_compare

Now let’s see each of them. Below is the original screenshot from the game.

ffxiv_10232015_135949_newjpg

Using manual Bloom feature in PhotoScape (Bloom can make blur effect, saturation, and Levels of brightness), also adjusting Bright/Color => Luminance Curve, and then Filter => Region (Our of Focus) to make the background blurry, then manually use Tools => Effect Brush to blur the area where Filter didn’t cover.

ffxiv_10232015_135949_new2

When I’m lazy, I so the above but use auto Bloom (low) instead. Which sometimes makes skin colour too pale for my liking. But it’s great for scenery pics, especially if there are lights in the dark.

ffxiv_10232015_135949_new

 

Error 401, cannot add crysta

Holy shit, this is bad.

I’ve never had this problem before. My credit card used to be fine for paying SE when I purchase Crysta. But since yesterday, my bro and I found out that none of our cards works now. It always gave us error 401 message:

An error has occurred.
Please confirm the status of any relevant options and then try again.
For details, please contact the Square Enix Support Center.
(Error code: 401)

I searched on Google and so many threads (old ones) came up. A lot of people were complaining about error 401 and there seems like there’s no way to fix this.

PayPal is already gone from Mog Station, and now my credit cards too?! I’m in a big trouble now. :(

Can’t download patch 2.38

*update*

OK It’s official, my ISP said their underwater cable for interlink has some problem and they’re trying to repair it. Ughhhhhhh!!

*end of update*

Not sure if it’s my internet’s fault or FFXIV players everywhere are downloading at the same time and thus compete on downloading speed/bandwidth, but my download is going as slow as 0.01MB/s and the time remaining says something like 997 minutes (it’s 3000 something minutes when speed display dropped to 0.00MB/s LOL!)

Sitting here cursing at the slow download, looking through my screenshots folder for what little comfort I could get. ; ;

Alec MonkI need to take more pics of my Monk because she’s handsome. :3

Real life rant about work

Since one of my Thai blogs will be terminated due to discontinuation of the service, I’d like to copy and paste old entries to my personal blog here, to preserve the record.

It is a rant about work, where I was presented with a task to proofread and edit a Thai to English translation by someone else. I was enraged by how unprofessional the work was. It was full of errors and absurd mistakes.


Original content copied from
http://valentino.exteen.com/20060605/siam-translation
http://valentino.exteen.com/20060606/siamtranslation


การทำงานอยู่กับบ้าน เป็นงานอิสระ (freelance) รับงานเป็นชิ้นๆ และรับเงินตามชิ้นงาน มันก็สะดวกดี นอกจากจะไม่ต้องฝ่าการจราจร ฝ่าฝน ฝ่ามลพิษไปทำงานข้างนอกแล้ว ยังสามารถจิบชา กินขนมเล่นเย็นๆใจในระหว่างทำงานได้ด้วย ที่สำคัญคือได้เป็นนายของตัวเอง บริหารเวลาของตัวเอง ใน 1 วันจะทำงานกี่ชั่วโมงก็ได้ ทำเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก ไม่มีใครมาชี้นิ้วสั่งหรือเจ้ากี้เจ้าการให้ตื่นเช้ามาทำงานกี่โมง เย็นๆต้องอยู่ออฟฟิศถึงกี่โมง

แต่ข้อเสียมันจะปรากฏในช่วงที่มีงานเร่ง งานด่วน และงานจากหลายๆเจ้ามารุมกันในคราวเดียว ทำให้ต้องเปิดโรงงานนรก นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ตื่นยันนอน สมองที่ประมวลผลอยู่ตลอดเวลาเพราะ deadline บังคับ จึงไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ แม้ในยามนอน บางครั้งยังฝันถึงงาน ทำให้ตื่นมาแล้วไม่ได้หลับอย่างเต็มที่ยังไงก็ไม่ทราบ

ช่วงนี้รู้สึกเลยว่า ทำงานจนเกือบๆจะถึงลิมิตแล้ว ตอนตื่นมาจะรู้สึกเหนื่อยและเพลีย ส่วนตอนดึกบางครั้งต้องเร่งงานจนไม่อาจหักใจไปเข้านอนได้ จนกว่าสายตาจะไม่โฟกัสบนตัวหนังสือ รู้สึกได้เลยว่าประสาทกำลังตึงเครียด เหมือนเส้นอะไรสักอย่างในสมองกำลังสั่นระริก ในทางอารมณ์รู้สึกเหมือนเป็นคนประสาทอ่อน สะดุ้งง่าย ขี้ตกใจ ขี้หงุดหงิด และเส้นกระตุก(โมโห)อยู่บ่อยครั้ง

วันนี้ตัดสินใจจะทำงานแบบใจเย็นๆ และผ่อนคลาย…. ไม่เสร็จก็ช่างหัวมัน(วะ)
ยังเหลือเวลาอีก 1 วัน กับงานอีกประมาณ7 หน้า….(สำหรับเรา การแปลไทยเป็นอังกฤษ มักจะยาก และใช้เวลานานกว่าแปลอังกฤษเป็นไทย)

คิดแล้วก็เจ็บแค้น ว่าทำไมเราต้องรับกรรมนี้ด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะคนที่แปลไว้รายก่อนมันแปลห่วยมาก ห่วยเสียจนอ่านแล้วอยากเอาระเบิดอึแมวไปขว้างหน้าตึกมัน เราเองทั้งๆที่รับปากจะตรวจทานความถูกต้องเฉยๆ เลยต้องเหมือนนั่งแปลใหม่ทั้ง 18 หน้า รู้สึกว่าการตรวจงานคนอื่นและแก้ไขให้ มันทำให้ประสาทของเราตึงเครียดกว่าทำเองตั้งแต่ต้นเสียอีก… หรืออาจจะเพราะเราเองที่ขี้โมโห อ่านเจอที่ผิดไปก็โมโหไป ก่นด่าสาปแช่งบริษัท Siam Translation ไป ในฐานที่เป็นถึงบริษัทมืออาชีพ ตั้งอยู่ในย่านสถานทูต แต่ยังบังอาจทำงานขี้หมูขี้หมาแบบนี้ออกมาได้ คิดดูสิ ปี พ.ศ. 2505 มันแปลเป็น ค.ศ. 1961 แล้วให้ปี 2506 เป็น 1962…. ทำมาได้ไง ชุ่ย!!!!!!!!!! (จริงๆที่อื่นมีผิดเยอะเหมือนกัน ไว้มาเผาวันหลังแต่เลขปีเนี่ยต้องเผาก่อน เพราะเป็นเรื่องที่ผิดแล้วอภัยให้ไม่ได้ เพราะมันคือ fact ที่ห้ามคลาดเคลื่อนเด็ดขาด)

เดี๋ยวไปหาอะไรกินให้อิ่มท้องก่อน (เวลาหิวจะอารมณ์เสียง่าย ก๊าก) แล้วค่อยกลับมาฟาดฟันกับงานชิ้นนี้ต่อ… ใครว่างๆก็ช่วยเราจุดธูป เผาพริกกับเกลือ (มะม่วงด้วย?) แช่งบริษัทนี้ด้วยนะ ฮื่อ แง่ง……


ถอดรหัสมั่ว… สยาม ทรานสเลชั่น (Siam Translation เลขที่ 57/4 ถนนวิทยุ เขตเพลินจิต)


 

ต้นฉบับ:
“ผมไม่เคยคิดจะเขียนอะไรเกี่ยวกับตัวเองเลย ผมก็เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่ง จนเมื่อวานเย็นลูกชายได้เอ่ยถามความเป็นมาของผม…”
Siam Translation:
“I have never regarded myself as significant because I am just an ordinary person so much so that yesterday evening my son made some inquiry about me….”


ต้นฉบับ:
“…กว่าที่จะจำความได้คือบ้านที่อยู่นั้นเป็นบ้านเช่า ซึ่งคุณพ่อเช่าจากญาติผู้ใหญ่ที่คุณพ่อติดตามท่านมาจากเมืองจีน...”
Siam Translation:
“…As memory recalls, we lived in a rented house belonging to a relative and my father’s relationship with this man went back to the days in China….”


ต้นฉบับ:
“เบตงเป็นเมืองที่อากาศดี เพราะมีสวนยางและป่าล้อมรอบการเดินทางจากตัวอำเภอเบตงไปยังตัวจังหวัดซึ่งมีระยะทางประมาณ 126 กม. ต้องใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชม. เพราะมีทางคดเคี้ยวเป็นร้อยโค้งประกอบกับริมทางก็ค่อนข้างทุระกันดาร
Siam Translation:
“Weather in Betong was good. Rubber trees and palm trees lined the streets and you could enjoy this scenery along the 126 km distance from Betong to provincial city. It takes 3 hours to travel because the road is crooked with curves everywhere .
The country side is remote and sparsely populated .”


ต้นฉบับ:
“….ใน
ตอนเช้าสักตีสี่ตีห้าก็เริ่มมีร้านกาแฟร้านหยำฉ่าแบบฮ่องกงเปิดบริการ ส่วนราคาก็ถูกมากสำหรับขนมจีบ ซาลาเปา ฮะเก๋า และที่อร่อยสุดๆไม่เหมือนใคร คือข้าวเหนียวไก่เบตง ซึ่งหากินไม่ได้ที่ไหนในโลก แม้แต่ในฮ่องกงก็เถิด
Siam Translation:
“….In
the mornings there were coffee shops catering to the people, just like in Hong Kong. Prices were very cheap. There were cookies , Chinese style and other styles, all delicious. Particularly interesting is glutinous rice with grilled chicken .”


ต้นฉบับ:
“…ทุกคนต้องลงมือ
วาดแผนที่ลงสี รู้ว่าแม่น้ำฮวงโห แยงซีเกียง อยู่ที่ไหน ต้องท่องได้ว่า ริมแม่น้ำแยงซีเกียงฝั่งเหนือแม่น้ำมีกี่มณฑล ฝั่งใต้แม่น้ำมีกี่มณฑล….
Siam Translation:
“…All the students were required to
take drawings lessons and they make color drawings. We learned about the location of rivers in China and provinces down stream


ต้นฉบับ:
“สิ่งที่เพื่อนร่วมห้องชอบมากที่สุด ก็คือไปดูหนังรอบสองที่โรงหนังบุศยพรรณ ราคาตั๋ว 7 บาทแต่ดูได้ 2 เรื่อง
เป็นหนังค่อนข้างใหม่ที่สุดหลุดจากโรงชั้นหนึ่ง
Siam Translation:
“We all loved to enjoy movies at Busayapan Cinema. Ticket price was 7-baht but we get to see 2 movies at a time.
The movies are quite new, just released. From the first class theaters.


ต้นฉบับ:
“คณะบัญชีรุ่นผมมีเพื่อนร่วมชั้นประมาณ 400 คน แต่มีผู้หญิง 75% ผู้ชาย 25%
ฉะนั้นผู้ชายก็ต้องลงแข่งกีฬาน้องใหม่เกือบทุกประเภท ไม่ว่าฟุตบอล วอลเลย์บอล บาสเกตบอล รักบี้ ว่ายน้ำ เพราะกลุ่มผู้ชายมีจำนวนจำกัดจริงๆ”
Siam Translation:
“In the Accounting Faculty I had many friends among the 400 strong student body. Among these, females represented 75% and males only 25%.
Sports is an essential thing with female students participated in every kind of sport, whether football , volley ball , rugby , swimming , etc.”


ต้นฉบับ:
“…แต่บางครั้งที่
มหาวิทยาลัยมีกิจกรรมดึก
ก็จะไป “สิงห์หอ” คืออาศัยเพื่อนๆหอพักจุฬาฯอยู่ พอชั้นปี 3 “น้าวิศิษฏ์คงคา” ซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีที่เบตงในสมัยนั้น ได้ซื้อบ้านที่หมู่บ้านชินเขต อยู่ตรงข้ามคุกบางขวาง…”
Siam Translation:
“Sometimes, I
went to see my friends at the University and spent the night at their hostel. I had a friend called “VisetKonka” a lawyer from Betong who purchased a house in a village opposite Bangkwang Prison.”


ต้นฉบับ:
“…ตอนนั้นรัฐบาลได้ขึ้นภาษีนำเข้าหนังต่างประเทศ
ทำให้ผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์งดนำหนังเข้ามาฉายตามโรง
เรื่อง Superman, Star War, Saturday Night Lover ล้วนไม่มีโอกาสขึ้นจอใหญ่ ผมเลยต้องอาศัยดูจาก VDO เทป และบ้านผมจึงเป็นที่ชุมนุมของเพื่อนที่อยากมาดูหนังเทศ ซึ่งผมต้องไปหาเช่าที่ศูนย์การค้าอินทราเป็นประจำ”
Siam Translation:
“…In those days the government began to impose tax on foreign films.
In the wake of this regulation, some western movies such as, Spider Man, Star Wars, Saturday Night Lover were some of the hits among the interesting movies.As I did not have much time to go to theaters, I just watched video at home and my house became the venue for some of my friends to watch foreign movies. I rented movies at Indra Trade Center.”

ต้นฉบับ:
“…โรงเรียนภาษาที่เรียนนี้ก็ล้วนแต่เ
ป็นกระเหรี่ยง
มีเพื่อนนักเรียนจากอเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง จีน ไทย เป็นหลักเรียนไปก็ไม่ได้ความรู้อะไรเพิ่มหรอก…”
Siam Translation:
“Students at the language school were mostly
foreigners such as Karens and others from South America, Middle East, China and Thailand. Learning at this school was pretty hopeless.


ต้นฉบับ:
“พี่โตเขียนเท่านี้เอง
นันท์
ขอเล่าต่อ พี่โตหลังจากเรียนภาษาเข้ามหาวิทยาลัยแล้วพี่โตทำงานหนักมาก….”
Siam Translation:
“Now allow
me (Nan) to continue with my story. After finishing the language school I entered the university….”


ต้นฉบับ:
“…ความเชี่ยวชาญในภาษา
จีนกลาง
กวางตุ้ง และแต้จิ๋วของโตทำให้ผมรู้สึกทึ่งมาก ตอนที่อยู่กวางเจาเขาต้องเป็นล่ามเพื่อให้คนจีนจากปักกิ่งคุยกับคนที่กวางเจารู้เรื่องกันได้…”
Siam Translation:
“…His knowledge of
Chinese, particularly Cantonese and Taechew was remarkable. When we arrived a Kwancho province, Khun Thirachai worked as an interpreter and talked business with some Chinese entrepreneurs from Peking….”


ต้นฉบับ:โตมีเพื่อนมากมายทั้งในเมืองไทย เมืองจีน ฮ่องกง อเมริกา สิงค์โปร์ ทำให้การไปไหนมาไหนสะดวก และติดต่อง่ายขึ้นเพื่อนโตที่ซัวเถาเป็นเจ้าพ่อส่งลูกน้องมาดูแลเราสองคนอย่างดี สามารถช่วยเราเบียดคนขึ้นเรือจากซัวเถาไปฮ่องกงได้สำเร็จด้วยการตะโกนและทุบประตูเอะอะกันลั่นท่าเรือ….
Siam Translation:
He had a host of friends in China, Thailand, Hong Kong and Singapore and this made communications very convenient and easy to work.We traveled from Sua Thow to Hong Kong with speed and convenience…..


มีอีกแยะแต่ขี้เกียจแฉแล้ว…เอาแค่คร่าวๆก็เช่น ที่บอกไปหน้าก่อน ว่าแปล พ.ศ. 2505 เป็น ค.ศ. 1961 และ 2506 เป็น 1962

แล้วก็มีพวกชื่อคนต่างๆ ซึ่งไม่รู้ว่าสะกดสระผิดจริงๆหรือแค่พิมพ์เพี้ยนไป เช่น

คุณเจอรัล => Khjun Jaras
ครูประเสริฐ => Teacher
Preset
น้าวิศิษฏ์ คงคา => (a friend) Viset Konka
ประพงศ์ => Prepong
วรสันต์ => Vasan
พี่โต (
โตคือชื่อเล่นของคนคนหนึ่ง) => Big Brother

หรืออย่างไปแปลงเพศให้คนที่ถูกพูดถึงเฉยเลย…

อาโกว => uncle
(อาโกวแปลว่า น้องหรือพี่ (ผู้หญิง) ของพ่อ ก็คือป้า หรือน้า ของฝ่ายพ่อนั่นเอง)

เฮ่อ โล่ง….เหมือนยกภูเขาออกจากอก เพราะส่งงานไปแล้ว กำลังรอ feedback จากคุณน้า (งานนี้ไม่ได้มีใครจ้าง แต่ทำเพราะเป็นสิ่งที่ควรทำ คือช่วยเหลือคุณน้า(ภรรยาของเพื่อนสนิทพ่อ) ตรวจเช็คเอกสารที่แปลมาจากหนังสือที่ระลึกงานศพคุณอา(เพื่อนสนิทของพ่อคนนั้นแหละ) ให้เสร็จสิ้นไป คือถ้าปล่อยให้คำแปลชุ่ยๆถูกเอาไปพิมพ์แจก ทั้งๆที่เป็นของเกี่ยวกับคุณอาคนหนึ่งซึ่งเราเคารพรักมาก และเป็นเพื่อนรักของพ่อเราซะด้วย มันก็รู้สึกไม่ดีใช่มั้ยคะ (และที่สำคัญ เดี๋ยวพิมพ์ไปแล้ว อาเจ็กแกจะเข้าฝันมาไล่เตะเอา ว่า “ไอ้เด็กพวกนี้ ไม่ช่วยจัดการให้อาเล้ย!”
ด้วยรักและความอัดอั้นตันใจ,
จาก freelance (หอกฟรี?) คนหนึ่ง.


– End of old content –