Only By Braving The Unknown

 ***This entry may contain story spoiler, especially for those who haven’t done the quest “The Lominsan Envoy” yet.***
***หัวข้อนี้อาจมีการสปอยล์เนื้อเรื่อง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ทำเควสต์ “The Lominsan Envoy”***

FFXIV_Quotes_01s

I try to read every sentence I see in the game during cutscenes and NPC dialog. I must admit, though, that sometimes I don’t have the time or leisure, or the diligence LOL!, to sit and read everything. When that is the case I would usually copy all the text and paste it into a document or spam my printscreen button so I can save it to read later. During a quest in Limsa, in a conversation with the Admiral, however, I read everything through, and this statement caught my eyes and captured my heart. It is my favorite quote so far in FFXIV: ARR during the Beta test Phase 4.

เราเป็นคนที่พยายามอ่านทุกประโยคในคัทซีนและในบทสนทนากับตัวละคร NPC ในเกม แต่ก็ต้องยอมรับนะว่าบางครั้งไม่มีเวลาจริง ๆ (หรือไม่ก็ขี้เกียจ 555) แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นเรามักจะก๊อปปี้ตัวหนังสือทั้งหมดเอาไปแปะในไฟล์ หรือกดปุ่มเซฟหน้าจอ เพื่อเก็บไฟล์ไว้อ่านทีหลัง หนนี้เราทำเควสต์เมืองลิมซ่า แล้วอ่านสิ่งที่ผู้พันพูดกับเรา และประโยคนี้มันเตะตาและจับใจมาก ๆ เลย ถ้าให้นับดูทั้งหมดตั้งแต่เล่นภาคใหม่ ทดสอบระยะที่ 4 มานี้ นี่เป็นโควตที่ถูกใจเราที่สุด

“Only by braving the unknown will you achieve the greatness of which you are surely capable.”
– Admiral Merlwyb Bloefhiswyn –

 

แปลไทย:
“มีเพียงต้องหาญกล้าเผชิญกับสิ่งที่ไม่รู้เท่านั้น เจ้าจึ่งจะสามารถปฏิบัติการใหญ่ให้ลุล่วงได้สมดังที่เจ้าพึงสามารถ”

– ผู้พันเมิร์ลวิบ โบลฟ์ฮิสวิน (ชื่ออ่านไม่ออก!!!) –

*greatness จริง ๆ ไม่ได้หมายถึงการใหญ่ หรือทำการใหญ่ แต่ยังหาคำที่ลงตัวไม่เจอ TAT มันน่าจะหมายถึง ความเป็นเลิศ หรือไม่ก็การเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เดี๋ยวขอไปนั่งคิดดูก่อน*

A New Beginning

***This entry may contain story spoiler, especially for those who haven’t watched “End of An Era” yet.***
***หัวข้อนี้อาจมีการสปอยล์เนื้อเรื่อง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ดู End of An Era***

We all know that the End of An Era was but a path toward A New Beginning, yet I can’t help but weep inside, and sometimes outside, whenever I am reminded of what happened during the battle of Carteneau. If anyone were eavesdropping at my door while I am either watching the ending, the opening, or playing through a quest with a flashback about the battle, they would hear whimpers, a lot of whimpers. In an attempt to stifle my sob, it usually results in a gargling sound not unlike a drowning person. Then, follow some wheezes, some trembled exhales, and eventually loud whimpers.

เราต่างก็รู้ดีว่าการล่มสลายของยุคสมัย (End of An Era) เป็นเพียงแค่หนทางสำหรับก้าวไปสู่การเริ่มต้นครั้งใหม่ (A New Beginning) เท่านั้น แต่กระนั้นทุกครั้งที่ฉันได้เห็นหรือฟังสิ่งใดที่ย้ำเตือนให้คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นยังแนวหน้าของศึก ณ Carteneau ก็อดไม่ได้ที่จะสะอื้นอยู่ลึก ๆ (หรือบางทีก็สะอื้นออกมาเลย) ถ้ามีใครมาแอบฟังอยู่ที่ประตู ในเวลาที่ฉันเล่นเกมนี้ และได้ดูภาพ ฟังเสียง หรืออ่านเกี่ยวกับการสัประยุทธ์ครานั้น ไม่ว่าจะในรูปแบบวีดีโอหรือจากการดูเนื้อเรื่องเควสต์ในเกมซึ่งมีการย้อนระลึกความ ก็คงจะได้ยินเสียงครางโหยของฉันดังขึ้นถี่ ๆ นับครั้งไม่ถ้วนเป็นแน่ ความพยายามของฉันที่จะกลั้นใจไม่ให้ร้องไห้ มักจะนำไปสู่เสียงอึกอักในลำคอคล้ายคนกำลังจะจมน้ำก็มิปาน หลังจากนั้นจึงกลายเป็นเสียงหวีดเบาในลำคอ เสียงระบายลมหายใจออกอย่างสั่นเครือ และตามด้วยเสียงครางโหยในที่สุด

End Of An EraCopyright (C) 2010 – 2013 SQUARE ENIX CO., LTD. All Rights Reserved.

That was quite dramatic….not. You would well understand me if you played FFXIV before and have been through and been absorbed into those storylines like I did. After the End of An Era, I have played the main scenario quests during Alpha and Beta test phases countless times. And since Phase 3, they let us watch the new flashback cutscenes during certain quests. The grief felt by the generals of the Grand Companies was also felt by me. The very same despair that engulfed the adventurers at the battlefront, plunging the whole realm into the deepest and darkest hopelessness, also engulfed me. And my budding hope that was revived by the sight of Louisoix conjuring his powerful barrier and seal spell had withered and died yet again at the appearance of THAT smile on his face.

Hold on a sec, let me whimper and catch my breath. Huff, oohh, ahhh, phew!

แหม ฉันนี่ช่างดราม่าน้ำเน่าจริง ๆ …. ซะเมื่อไหร่ล่ะ! หากใครได้เล่นเกมไฟนอล 14 มาก่อน และได้ผ่านและซาบซึ้งกับเนื้อเรื่องมาเหมือน ๆ กับฉัน ก็จะเข้าใจเองว่าทำไม หลังจากการล่มสลายครั้งนั้น ฉันได้ร่วมทดสอบตัวเกม ทั้งอัลฟ่า เบต้า และได้ทำภารกิจเนื้อเรื่องหลักซ้ำ ๆ นับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะที่ 3 ซึ่งมีการเปิดให้เราดูฉากเคลื่อนไหวในเกมได้เต็ม ๆ โดยไม่ปิดบัง มันมีบางเควสต์ที่เล่าย้อนไปถึงการรบพุ่งครั้งนั้นด้วย ความโทมนัสที่เหล่าผู้บังคับบัญชาของสามทัพใหญ่รู้สึก ฉันก็รู้สึกด้วย ความท้อแท้เดียวกันกับที่กลืนกินเหล่านักผจญภัย ณ แนวหน้าของการรบ และผลักดินแดนแห่งนี้ให้จมดิ่งลงสู่ความสิ้นหวังอันดำมืดสุดหยั่งนั้น ก็ได้กลืนกินฉันไปด้วย อนึ่ง ความหวังใหม่ที่แตกหน่อขึ้นและฟื้นคืนชีพขึ้นมาเมื่อได้เห็นท่านลุง Louisoix ร่ายคาถาเกราะกำบังและคาถาปิดผนึกอันกล้าแข็ง ก็กลับแห้งเหี่ยวและตายลงไปอีกครั้งเมื่อบนใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มนั้นขึ้น

อา ประเดี๋ยวก่อนนะ ขอพักสะอื้นและสูดลมหายใจให้เป็นปรกติก่อน ฮึก ฮ้า ฮู้ เฮ้อ!

Anyway, we are now onto A New Beginning. I am extremely impressed by the creativity of the development team. It was such a touching story very well suited for the transition. Bravo to them. I am eagerly looking forward to playing FFXIV: ARR at the official launch.

อย่างไรก็ตาม บัดนี้เราต่างก็ได้ย่างเข้าสู่การเริ่มต้นครั้งใหม่แล้ว ฉันรู้สึกประทับใจมาก กับความคิดสร้างสรรค์ของฝ่ายพัฒนาเกม เนื้อเรื่องที่ได้เห็นมันช่างเป็นเรื่องราวที่ชวนซาบซึ้งและเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเปลี่ยนแปลลงของตัวเกม ไชโยให้กับทีมงาน! ฉันกำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อถึงวันที่จะได้เล่นเกมไฟนอล 14 ฉบับปรับปรุงที่กำลังจะเปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการ 

A Realm RebornCopyright (C) 2010 – 2013 SQUARE ENIX CO., LTD. All Rights Reserved.

See you, adventurers of Eorzea! Let’s all rebuild the realm and have a good adventure!

แล้วพบกันนะนักผจญภัยแห่ง Eorzea ทุกท่าน! เรามาร่วมกันฟื้นฟูดินแดนและผจญภัยกันให้สนุกเถอะ!

New Blog

In order to commemorate the grand opening of Final Fantasy XIV: A Realm Reborn (or FFXIVARR or FFXIV 2.0,) I decided to start a new blog.

เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ของไฟนอลแฟนตาซี 14 ภาคใหม่ฉบับปรับปรุง อิฉันก็เลยทำบล็อกใหม่เสียเลย อิ ๆ

By Fire Reborn

No, not really! Simply because my old blog has been long-running and was used since FFXI, making the entries and files all very messy, I wanted to tidy up my blog to make it easier to navigate. So, I decided to shift to write about FFXIV: ARR in a new blog. I will leave all the old entries in the old blog like that, not deleting them, just won’t add new entries anymore.

ใช่ซะที่ไหน! จริง ๆ คือบล็อกเก่ามันใช้มานานมาก ๆ แล้ว และเขียนมาตั้งแต่สมัยไฟนอล 11 ทั้งข้อความทั้งรูปภาพ ก็เลยค่อนข้างจะผสมปนเปกันจนยุ่งเหยิง ไร้ระเบียบวินัยในชีวิต ตอนนี้เกิดอยากทำให้มันเรียบร้อยเป็นระบบหน่อย จะได้หาอะไรอ่านได้ง่าย ๆ ก็เลยทำบล็อกใหม่ขึ้นมาค่ะ ส่วนบล็อกเก่าก็ยังคงเก็บไว้แบบนั้นต่อไป ไม่ลบ แต่ก็จะไม่เขียนต่อ

I’m now still tweaking (read: fumbling with) my blog’s appearance, theme and stuff. It will take a while, as I lack in skills. So, please be patient.

อนึ่ง ตอนนี้กำลังค่อย ๆ ปรับรูปแบบและหน้าตาของบล็อกอยู่ ก็คงจะช้านิดนึงเพราะทักษะไม่ค่อยมี ยังไงก็อดทนรอไปก่อนก็แล้วกันนะจ๊ะ